Worst Dentist in Isan

	4 March 2023

	As I was in Thailand on holiday I decided to pop into a local Dentist to get some dentures as the price and service in Thailand has been very good in the past. I randomly popped into a dentist opposite the Sakon Nakhon Bus Station It was a small office a little grubby for a Dentist no Aircon with the smell of old food in the air. We sat and waited a moment before a lady in a rather grubby dress and shirt appeared asked what we wanted and told us to wait a moment. She reappeared to show us a booklet of all the work she had done and how fine her work was. The lady then called us through to a back office and told me to sit in the chair. I explained that I needed some bottom dentures, and she examined my mouth wearing some plastic gloves that smelt of garlic. She was rough on my mouth and asked me to removemy the top denture, which I did and she walked off with them. Another customer came in and she attended to them, from my chair I could see her talking and taking payment on her phone all the while still wearing her same plastic-stained gloves. The dentist returned and started to pull about in my mouth, she was so rough I asked her to stop and what she was doing. I told her that I wanted a price for some bottom dentures she immediately showed me a book of prices, and it worked out rather expensive something like 17000 to 25000 baht just for bottom teeth. I declined as I have had dentures before and they were not that expensive. I wanted out of there it was dirty unprofessional and a little scary as she was very aggressive. I told her too expensive and that I did not want to proceed. She immediately swung the arm of the chair against my stomach blocking me from getting out. Now as a disabled person with a broken back, I was unable to move. She pushed her book into my hands and told me to look at all the people that had recommended her work. I declined and asked to leave, but she refused, saying I had agreed to have the work done and that I should now pay half the 20,000. Where are my dentures I asked, she said I could not have them back till I paid? First I am kidnaped and now held to ransom. What is going on here I am now in total shock my wife giving support saying that she should let me out of the chair and we will talk. Finally, I am out of the chair asking for my Dentures, my wife having words while I sit and wait recovering and now shaking. The dentist if you can call her that, now demands 3,500 for the work she has done before giving my dentures back. So now we have theft. Once I recovered I took my camera out and started recording I told her she should change her gloves as they are filthy and that she is a thief for taking my teeth as it was obvious she had planned this and was holding my teeth as a guarantee of getting paid for her crookery. My wife went into the back room to look for my dentures, the first attempt failed they could not be found, however, the second time they were found hidden under some old pots below some rotting food on the table, evident that she planned this all along to get money out of her customers. Unfortunately, I did not video the whole thing but did manage to get some footage, of some stale food on a plate and a dirty Dental Office Once we found the denture we were out of there. Not a good move as she had called the police and it was her story of lies that they had, rather than both sides. Apparently, we invaded her shop kidnapped her and stole other customer's teeth. This lady is unbalanced she is well known not only to the locals but to the Police who dread having anything to do with her because she will sue them if they do not do what she wants. We later went to the Police station with a Lawyer and stated our case, the police had all heard it before the dentist was famous for taking people to court including the police as she had powerfull friend and been left a fortune in money, basically they were scared of her and wanted nothing to do with it, they told me that they too had beed taken to court for not doing as she had requested. The last few weeks of the holliday we were called every second day by the police we had to come to the office once they had found a Police Officer that could deal with this lady as they all had had issues with her in the past and were being sued by her. Finally one was found the day we had to leave. The the police are now harrasing my Wifes family at the request of the Crazy dentist who now says she was invaded by a couple with a kid that stole a second hand denture from her shop. But holidays come to an end we had to fly back to the UK. The Holiday was a Nightmare! This is still going on We are in the UK and the Sakhon Police are harrasing my Wifes parents regarding the issue as the Dentist from Hell is now demanding 80000B

	4 มีนาคม 2566 ตอนที่ผมอยู่ประเทศไทยในช่วงฮอลลิเดย์ ผมได้ตัดสินใจเข้าไปที่คลินิกทำฟันในชุมชน เพื่อต้องการที่จะทำฟันปลอม เพราะในประสบการณ์ที่ผ่านมาระบบทันตกรรมและราคาที่ประเทศไทยถือว่ามีคุณภาพมาก ผมจึงได้สุ่มเข้าไปที่คลินิกทำฟันแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับบริษัทขนส่งเก่าของจังหวัดสกลนคร เมื่อผมได้เดินเข้าไปในอาคารมันดูเล็กและทรุดโทรมสำหรับคลินิกทันตกรรม ไม่มีแอร์ติดตั้งระบายความร้อนและได้กลิ่นของอาหารบูดที่เหมือนทิ้งไว้นานแล้ว พวกเราจึงนั่งพักด้วยความกังวลอยู่เล็กน้อยก่อนที่ผู้หญิงคนนึงที่สวมชุดดูลุ่มล่ามโทรมๆเข้ามาถามว่าต้องการให้ทำอะไร และก็บอกให้พวกเรานั่งรอสักพัก แล้วเอาแผ่นกระดาษมาโชว์ให้เราดูว่าเค้ามีผลงานในการทำฟันดีแค่ไหน และเธอก็เรียกให้ผมเข้าไปในห้องออฟฟิศทำฟันและให้นั่งที่เก้าอี้สำหรับทำฟัน และผมก็ได้อธิบายให้เธอฟังว่าผมต้องการที่จะทำฟันปลอมช่วงล่าง และเธอก็ได้ตรวจฟันของผมด้วยการสวมถึงมือพลาสติกที่มีกลิ่นที่เต็มไปด้วยกลิ่นของกะเทียม และมือของเธอก็หนักมากทำให้ผมรู้สึกเจ็บในปากและเธอก็บอกให้ผมเอาฟันปลอมด้านบนออกและผมก็ได้ทำตามที่เธอบอก สักพักได้มีลูกค้าก่อนหน้าได้เข้ามาคุยกับเธอและเธอก็ได้ไปสนทนากับลูกค้าท่านนั้นสักพัก ซึ่งในเก้าอี้ที่ผมนั่งผมสามารถมองเห็นเธอสนทนากับลูกค้าเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะโอนเงินทางโทรศัพท์ของเธอและในช่วงที่เธอทำธุรกรรมทางการเงินเธอก็ยังสวมถุงมือพลาสติกอันเดิม และหลังจากนั้นเธอก็ได้กลับเข้ามาทำฟันในปากของผมต่อ ซึ่งมือของเธอนั้นก็หนักมากจนผมต้องบอกให้เธอหยุดและผมก็ได้ถามเธอว่าเธอกำลังทำอะไรในปากของผม และผมต้องการทราบราคาว่าจะมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ในการดำเนินการทำฟันนี้ และเธอก็พยายามที่จะเอาหนังสือมาเปิดราคาให้ดูว่าเท่าไหร่ซึ่งมันมีค่าใช้จ่ายสูงอยู่ที่ประมาณ 17,000-25,000 บาท เฉพาะฟันปลอมด้านล่าง ซึ่งผมได้อธิบายให้เธอฟังว่าที่ผมเคยทำมาจากที่อื่นราคามันไม่ได้สูงขนาดนี้ ผมจึงต้องการที่จะออกจากคลินิกเพราะผมเห็นว่ามันสกปรก และทันตแพทย์ก็ทำไม่เชี่ยวชาญ และมันทำให้ผมรู้สึกกลัวเพราะเธอเกรี้ยวกราดที่ผมบอกว่าราคามันแพงเกินไป และผมต้องการที่จะหยุดกระบวนการทำฟันทุกอย่าง และเธอก็ได้เอาที่พักแขนของเก้าอี้มาขวางที่ท้องของผมเพื่อที่จะไม่ให้ผมสามารถลุกขึ้นจากเก้าอี้ได้ และผมก็เป็นบุคคลทุพลภาพเพราะมีปัญหาเรื่องหลังที่หัก ทำให้ผมไม่สามารถขยับตัวได้ และเธอได้เอาหนังสือมาใส่มือผมและให้ผมดูว่ามีลูกค้าที่เค้ารีวิวถึงคุณภาพที่เธอทำงานดีแค่ไหน แต่ผมก็ตัดสินใจเพื่อที่จะขอออกจากคลินิก แต่เธอปฏิเสธและบอกว่าผมตกลงที่จะทำฟันปลอมกับเธอแล้วและจะให้ผมจ่ายในราคาครึ่งนึงอยู่ที่ 20,000 บาท และผมก็ได้ถามเธอว่าแล้วฟันปลอมด้านบนของผมอยู่ไหน เธอบอกว่าเธอเอาคืนให้ผมไม่ได้จนกว่าผมจะชำระเงินให้เธอ ซึ่งผมตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกกักเป็นตัวประกัน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับผมที่นี่ ผมอยู่ในอาการช็อคตกใจมาก ภรรยาผมช่วยซัพพอร์ตและอยู่ข้างๆผมและบอกให้คุณหมอปล่อยผมออกจากเก้าอี้แล้วเราค่อยมาคุยกัน และในที่สุดผมก็สามารถบุกออกมาจากเก้าอี้ได้และผมก็ได้ถามเอาฟันปลอมด้านบนของผมคืน ซึ่งภรรยาของผมได้คุยกับหมอฟันในขณะที่ผมนั่งพักเพื่อที่จะให้หายจากอาการตกใจสั่น และคุณหมอต้องการค่าดำเนินการพิมพ์ฟันไปก่อนหน้านั้นเป็นจำนวน 3,500 บาท ถึงจะยอมคืนฟันปลอมด้านบนให้ ตอนนี้เราได้เห็นขโมยเกิดขึ้นแล้ว ผมที่ตอนนี้ได้หายจากอาการตกใจสั่นก็ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อบันทึกวิดีโอเหตุการณ์ และผมก็ได้บอกให้เธอเปลี่ยนถุงมือที่มันสกปรกออก และก็ได้บอกว่าเธอคือขโมยที่ขโมยฟันปลอมด้านบนของผมซึ่งมันสามารถมองออกได้อย่างชัดเจนว่ามันคือแผนการของเธอ ที่จะเก็บฟันปลอมด้านบนของผมเอาไว้เพื่อที่จะนำมาเป็นสิ่งยืนยันว่าผมจะต้องยอมชำระเงินให้เธอตามแผนการคดโกงของเธอ ภรรยาของผมได้เดินอ้อมไปด้านหลังห้องเพื่อที่จะไปหาฟันปลอมที่คุณหมอเอาไปซ่อน ครั้งแรกมันเกิดการล้มเหลวเพราะหาไม่เจอ อย่างไรก็ตามภรรยาผมเค้าไม่ละความพยายามและได้เข้าไปค้นเจอฟันปลอมของผมที่มันถูกซ่อนไว้ข้างล่างถ้วยอาหารที่มีอาหารบูดเน่าวางไว้ที่โต๊ะนั้น หลักฐานเห็นได้ชัดว่าคุณหมอเตรียมการนี้ไว้เพื่อต้องการที่จะขูดรีดไถเงินจากผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการ และเป็นที่น่าเสียดายที่ผมไม่ได้บันทึกวิดีโอเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ ซึ่งได้มาแค่บางส่วนและภาพอาหารบูดเน่า และ สถานที่ประกอบการคลินิกที่สกปรก หลังจากที่เราค้นหาฟันปลอมของเราเจอพวกเราก็ได้รีบเดินออกจากคลินิกไปทันที ซึ่งมันก็ไม่ได้ราบรื่นเพราะเธอโทรหาตำรวจและได้แจ้งตำรวจจับพวกเราข้อหาบุกรุก ซึ่งมันคือการโกหกจากปากของเธอเพียงด้านเดียวเท่านั้น และมันควรจะเป็นการฟังความจากทั้งสองด้าน ซึ่งในข้อกล่าวหาคือ เราเข้าบุกรุกสถานที่ของเธอและได้ขโมยฟันปลอมของลูกค้าท่านอื่นไปด้วย ผู้หญิงคนนี้เป็นคนไม่สมปรกติทุกคนในชุมชนต่างก็รู้ดีว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรกับเธอได้แม้กระทั่งตำรวจก็ยังโดนถูกฟ้องถ้าไม่ทำตามที่เธอต้องการ พวกเราได้เดินทางไปสถานีตำรวจพร้อมกับทนายเพื่อที่จะไปรับทราบเกี่ยวกับคดีความที่เธอกล่าวหา แต่เวลาในช่วงฮอลิเดย์ของเราได้สิ้นสุดลงดังนั้นเราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาที่สหราชอาณาจักร และในช่วงอาทิตย์สุดท้ายของฮอลิเดย์พวกเราได้รับแต่โทรศัพท์จากตำรวจทุกๆสองวัน เพื่อที่จะเรียกให้เราไปที่สถานีตำรวจเพราะสามารถหาตำรวจที่สามารถทำเรื่องดำเนินการระหว่างเรากับหมอฟันนี้ได้แล้ว เพราะตำรวจท่านอื่นๆนั้นได้ถูกเธอแจ้งข้อหาไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่เธอต้องการไปจนเกือบหมดแล้ว และท้ายสุดที่เราได้วันและเวลาที่จะต้องไปสถานีตำรวจมันเป็นวันที่พวกเราจะต้องเดินทางกลับสหราชอาณาจักรแล้ว และตำรวจก็ได้ก่อกวนด้วยการส่งหมายเรียกไปที่บ้านของครอบครัวภรรยาผม จากคำเรียกร้องกล่าวหาของหมอฟันหญิงไม่สมปรกตินี้ ที่บอกว่าเธอโดนบุกรุกจากสองสามีภรรยาและเด็ก 10 ขวบเพื่อเข้าไปขโมยฟันปลอมมือสองจากคลินิกของเธอ และมันยังไม่จบอยู่แค่นี้
		My teeth were found in the Black Pot hidden under the green Box

	Below is the Video of me asking the lady to give back my Teeth and telling her that her office is Dirty